ประจวบคีรีขันธ์-หนังคนละม้วน ตร.แจงเหตุบุกบ้านโจ๊ก หมาล่าเพื่อจับผู้ต้องหาหนีหมาย ด้านทนายดังแจงหากเป็นหมายจับสามารถเข้าจับกุมได้24ชม. แต่ผตห.ต้องเป็นเจ้าของบ้าน

ประจวบคีรีขันธ์-หนังคนละม้วน ตร.แจงเหตุบุกบ้านโจ๊ก หมาล่าเพื่อจับผู้ต้องหาหนีหมาย ด้านทนายดังแจงหากเป็นหมายจับสามารถเข้าจับกุมได้24ชม. แต่ผตห.ต้องเป็นเจ้าของบ้านจากกรณีที่มีการนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์กรณี นายชนพร บุตรเกตุ หรือโจํก หมาล่า ขึ้นโรงพัก แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ปส.) หลังนำกำลังเข้าบุกค้นบ้านในช่วงเวลากลางคืน โดยอ้างว่ามีรายงานจากสายว่ามีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568
ล่าสุดเมื่อวันที่  12 พ.ย. 2568 ที่ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขีนธ์ พ.ต.ท. ธนศักดิ์ ลีลานุช  รอง ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด และชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนขยายผลและยึดทรัพย์ยาเสพติด ภ.จว.ประจวบครีขันธ์ ได้เดินทางมายัง สภ.บางสะพาน เพื่อเข้าให้ข้อมูลต่อ พนงสอบสวนฯ หลังทราบว่านายชนพร บุตรเกตุ ได้อ้างผ่านสื่อว่าเป็นเจ้าชองบ้านที่ถูกตร.ปส. นำกำลังเข้าไปตรวจค้นยามวิกาล  จากนั้น พ.ต.ท.ธรศักดิ์ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.พศิษฐ์ ก้อนสิน รรท.ผกก.สภ.บางสะพาน เพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เดินทางกลับทันที
ต่อมา พ.ต.อ.พศิษฐ์ ก้อนสิน รรท.ผกก.สภ.บางสะพาน ได้ขี้แจงในส่วนที่ได้ข้อมูลจากหัวหน้าชุดถึงเหคุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า เหตุกาาณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณสามทุ่ม ของคืนวันที่ 9 พ.ย. 68 ที่ผ่านมาโดยชุด ตร.ปส  ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ๋ นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งริมถนนเพชรเกษม-ชายทะเล พื้นที่ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน ซึ่งต่อมาได้มีการนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์พร้อมภาพ-คลืปในทำนองที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวกระทำเกินกว่าเหตุ บุกค้นบ้านซึ่งเป็นเคหสถานในยามวิกาลพร้อมกับนายชรพรได้มีการเข้าแจ้งความที่ สภ.บางสะพาน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 68 ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดได้เข้าให้ข้อมูลต่อ พนง.สอบสวน และเข้าพบตนซึ่ง ให้ข้อมูลเหตุดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งข้อมูลังกล่าวที่นำเสนอออกไปมีความคลาดเคลื่อนจาความเป็นจริงมากและส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กร
พ.ต.อ. พศิษฐ์เปิดเผยต่อว่า ภายหลังจากที่ได้คุยกับหัวหน้าชุด จึงทราบว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าบ้าน ผู้ร้องเเพื่อเข้าจับกุม นายจรัญ หมื่นนิล ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 136/2566 ซึ่งได้หลบหนีหมายจับมานานกว่า 2 ปี จากข้อมูลพบว่านายจรัญมักจะมานอนที่บ้านหลังดังกล่าวและออกจากบ้านไปวนช่วงกกลางวัน จนท.จึงได้ส่งสายลับเข้าไปเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่า นายจรัญ อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวจึงนำกำลีงบุุกเข้าจับกัมกุมและตรวจค้นในบ้านผู้ต้องหา ก่อนจะมีการนำตัวนายจรัญส่งยีง สภ.บางสะพาน ทำบันทึกจีบกุมและดำเนินคดีทางกฎหมาย
ต่อมาผู้สื่อข่่วได้มีการโทรศัพท์ สอบถามถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับกับ นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ถึงข้อกฎหมายถึงขอบเขตอำนาของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทนายเจมส์เผยว่า การที่ จนท.บุกเจ้าไปในเคหสถานเพื่อดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับจากศาล สามารถกระทำได้ตลอด 24 ชม. สามารถทำได้แม้ในยามวิกาลแต่ต้องมีความแน่ชัดว่าผู้ต้องหาได้อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และที่สำคัญ ผู้ต้องหาที่ถูกจนท.เข้ากับกุมคามหมายฯ ต้องเป็นเจ้าบ้านหลังนั้น หากบุคคลนั้นเป็นผู้อยู่อาศัย จนท.ไม่สามารถบุกเข้าไปได้โดยพลการหากเจ้าบ้านไม่อนุญาต ให้เข้าตรวจสอบ
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781