แม่ฮ่องสอน-เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม วอนภาครัฐรับซื้อกระเทียม ในราคาที่เป็นธรรม หลังราคาตกต่ำ

แม่ฮ่องสอน-เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม วอนภาครัฐรับซื้อกระเทียม ในราคาที่เป็นธรรม หลังราคาตกต่ำ
วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจากตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จาก 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านห้วยโป่ง หมู่ที่ 1 , บ้านแก่นฟ้า หมู่ที่ 2 , บ้านป่าลาน หมู่ที่ 3 , บ้านไม้ฮุง หมู่ที่ 5 , บ้านกลาง หมู่ที่ 7 และ บ้านห้วยช่างคำ หมู่ที่ 8 จำนวนกว่า 50 คน รวมตัวกันเพื่อวอนขอภาครัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาดูแลและให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ในพื้นที่ตำบลห้วยโป่ง ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีวี่แววพ่อค้าเข้ามารับซื้อกระเทียมแต่อย่างใด บางส่วนที่เข้ามาก็ต่อรองรับซื้อในราคาถูกมาก ( ราคา กก.ละ 22 -30 บาท ) เกษตรกรบางรายก็จำเป็นต้องขาย เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ซ้ำเป็นช่วงของการเปิดภาคเรียน ต้องจ่ายค่าเทอม ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน หนี้สินรุงรัง เพราะลงทุนปลูกกระเทียมไปแล้ว แต่กระเทียมกลับไม่ได้ขาย สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือเก็บกระเทียมแห้งเข้าโกดังไว้ รอวันที่ได้จำหน่าย โดยนางแรมจันทร์ ไชยสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านไม้ฮุง หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยโป่ง ได้เปิดเผยถึงข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ของจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม และจำนวนกระเทียมที่มีอยู่ ของ 6 หมู่บ้าน ในตำบลห้วยโป่ง อ.เมือง ประกอบด้วย บ้านไม้ฮุง มีเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 38 ราย ผลผลิตกระเทียม 221,400 กิโลกรัม บ้านแก่นฟ้า เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 37 ราย กระเทียม 154,600 กิโลกรัม บ้านกลาง เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 37 ราย กระเทียม 184,100 กิโลกรัม บ้านห้วยช่างคำ เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 7 ราย กระเทียม 35,000 กิโลกรัม บ้านป่าลาน กระเทียม 80,000 กิโลกรัม บ้านห้วยโป่ง เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 21 ราย กระเทียม 103,700 กิโลกรัม
หากรวมจำนวนพื้นที่การปลูกกระเทียม ของตำบลห้วยโป่งในปีนี้ ลดลงกว่าครึ่งของพื้นที่ปลูกทั้งหมดในปีที่ผ่านมา ส่วนผลผลิตกระเทียมก็ลดน้อยลงกว่า 30% เพราะเกษตรกรในพื้นที่บางรายเปลี่ยนไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น เช่น ถั่วลายเสือ เป็นต้น เพราะลงทุนน้อยและจำหน่ายได้ง่ายกว่า ย่อมแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่ปัญหากระเทียมล้นตลาดอย่างแน่นอน คาดว่าน่าจะเป็นเพราะผู้บริโภคหันไปใช้กระเทียมที่มาจากประเทศจีน ซึ่งมีหัวขนาดใหญ่ ปอกเปลือกง่าย และราคาถูกกว่ากระเทียมของไทยนั่นเอง
ส่วนต้นทุนการปลูกกระเทียม อยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม อยากขอราคาจำหน่าย กิโลกรัมละ 60 บาท ก็จะอยู่ได้ หากราคาต่ำกว่านี้คงลำบากกันไปหมด (ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาได้จำหน่ายกระเทียมราคา กก.ละ 50-55 บาท) นายแดง ปฎิพัทกวี เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมบ้านไม้ฮุง หมู่ที่ 5 ได้เปิดเผยว่า ในขณะนี้เกษตรกรเก็บกระเทียมเข้าโรงเก็บ ไว้รอพ่อค้าเข้ามารับซื้อ แต่บางคนก็ได้ขายไปด้วยความจำเป็น ในราคา กก.ละ 22-30 บาท ซึ่งยอมขายแบบขาดทุน แต่ในช่วงนี้ไม่มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อเลย จึงอยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมบ้าง
นายสมบูรณ์ พิรุณรัตน์ อีกหนึ่งเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมบ้านไม้ฮุง ก็ได้กล่าวว่า ปีนี้กระเทียมยังไม่ได้ขาย ขอฝากถึงพ่อเมืองของเรา พาณิชย์จังหวัดฯ สส.แม่ฮ่องสอน ในส่วนของตนเองในปีนี้ ได้ลงทุนปลูกกระเทียม 80 ถัง 2 แสนกว่าบาท ถ้าหากว่า ได้ขายราคากิโลกรัมละ 60 บาท ก็พอใจแล้ว
นางอิ๊ด จันทร์โอภาส เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมบ้านแก่ฟ้า หมู่ที่ 2 ได้กล่าวว่า ความลำบากของชาวบ้านคือต้นทุนการปลูกสูง ราคากระเทียมตกต่ำ และตอนนี้เกษตรกรเดือดร้อนเพราะไม่ได้ขายกระเทียม และไม่มีพ่อค้าเข้ามาซื้อกระเทียมเลย ในส่วนของกระเทียมที่บ้านแก่นฟ้าในตอนนี้มีอยู่ประมาณ 150 ตัน หรือ 156,400 กิโลกรัม

ด้านนายอาวุธ ขยันดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่ง กล่าวปิดท้ายว่า ปีนี้ พ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อกระเทียมในพื้นที่น้อยมาก และราคาที่รับซื้อก็ต่ำ จึงทำให้กระเทียมตกค้างตามโกดังในหมู่บ้านต่าง ๆ เยอะมากกว่าทุกปี สรุปคือราคากระเทียมต่ำ ในขณะที่ต้นทุนการปลูกสูง อยากขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาดูปัญหาของชาวบ้านพี่น้องเกษตรกร เพื่อหาแนวทางแก้ไขช่วยชาวบ้าน
กระเทียม ถือเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่สร้างรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลห้วยโป่งมานานแล้ว กระเทียมที่นี่ ขึ้นชื่อในเรื่องของกระเทียมพันธุ์ดี เพราะเป็นกระเทียมสายน้ำแร่ เป็นกระเทียมที่มีคุณภาพ และได้รับการันตีว่าเป็นกระเทียม GAP ในวันนี้ เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมทุกคน ได้แต่รอคอยความหวังจากหน่วยงานของรัฐ ในการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการตลาด เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้จำหน่ายกระเทียมในราคาที่เป็นธรรม.
สุกัลยา /แม่ฮ่องสอน

Related posts