ว่าที่ ร.ต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น วิเคราะห์การเมืองนายกคนที่ 32 ทำงานพร้อมกับผู้นำเหล่าทัพ

ว่าที่ ร.ต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น วิเคราะห์การเมืองนายกคนที่ 32 ทำงานพร้อมกับผู้นำเหล่าทัพ

Screenshot

ว่าที่ ร.ต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น วิเคราะห์การเมืองนายกคนที่ 32 ทำงานพร้อมกับผู้นำเหล่าทัพ ที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทำหน้าที่เชื่อรัฐบาลสามารถทำงานร่วมมือกับกองทัพได้เป็นอย่างดีรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ แก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนไม่ว่าจะเป็นชนกลุ่มน้อยภาคเหนือและปัญหาแนวชายแดนไทย – กัมพูชา แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จากการลงมติวันนี้ 311 เสียง ที่ได้มานั้นถือว่าเกินความคาดหมายและต่อจากนี้อีก 4 เดือนเชื่อรัฐบาลอนุทิน 1 ต้องแก้ไขปัญหาคั่งค้างตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไม่สำเร็จ โดยเฉพาะวันนี้กองทัพมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะกองทัพบกการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึงกับเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค 4 นำแม่ทัพภาค 2 ซึ่งเคยปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ลงไปดูแลความสงบเรียบร้อยในศาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเชื่อว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเปิดเจรจาอย่างจริงจังและจริงใจลดความขัดแย้งความหวาดระแวงไปพร้อมๆกับการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้ระยะเวลาที่เหลือน้อยนิดนี่ก็เป็นงานที่ท้าทายที่รัฐบาลอนุทิน ซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และต้องมีพันธมิตรคือพรรคประชาชน คอยสนับสนุนอยู่ข้างๆและต่อจากนี้ ตนเชื่อว่าการเมืองคงฝุ่นตลบ ต้องมีการสลับสับเปลี่ยนกันมากยิ่งขึ้น วันนี้ความเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ก็เริ่มมีการขยับสมาชิกแกนนำต่างๆลาออกหลายคนรวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย ถามว่าการงดออกเสียงในการโหวต เลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะส่งผลบวกหรือลบให้กับประชาธิปัตย์หรือไม่อย่างไร ตนเชื่อว่าไม่ส่งแรงกระเพื่อมเพราะเวลาที่เป็นนาทีทองมันผ่านไปแล้วนับตั้งแต่ที่ประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายกแพทองทาน ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พรรคเพื่อไทย เพื่อแลกกับตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทฤษฎี Domino ยืมมือฆ่า ภูมิใจไทย แต่ไม่สำเร็จ นั่งตำแหน่งแค่ 1 เดือนเศษก็สะดุดขาตัวเอง พาลัคนาว่าหลงเหวด้วยคลิปเสียง (Uncle) ซึ่งนาทีทองในช่วงนั้นก็เช่นกันแทนที่ประชาธิปัตย์จะถอนตัว ตามพรรคภูมิใจไทยแต่ก็ยังตัดสินใจช้า จึงทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง ถามว่าประชาชนได้อะไรไหมไม่ได้อะไรเลยตลอดรัฐบาล 2 ปีที่ผ่านมา ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องรวมถึงปัญหาการปะทะกันตามแนวชายแดน ไทยและกัมพูชา ทำให้พี่น้องประชาชนบาดเจ็บล้มตายหนักกว่าเมื่อปี 2554 ที่รัฐบาลเพื่อไทยบริหารราชการแผ่นดินเสียอีก ดังนั้นต่อจากนี้ การทำงานของรัฐบาลจึงต้องถูกจับตามองจากประชาชน และสื่อต่างๆ รวมถึงความซื่อสัตย์สุจริตมุ่งมั่นทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป

Related posts