ผบช.ปส.นำทีมไทยเปิดเวที 3 ฝ่าย ไทย–จีน–สหรัฐฯ ผนึกกำลังปราบยาเสพติดข้ามชาติ
ยกระดับความร่วมมือภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สกัดเส้นทางค้ายา–แลกเปลี่ยนข้อมูลคดีสำคัญ
ท่ามกลางสถานการณ์ยาเสพติดที่ขยายวงเชื่อมโยงข้ามทวีป การจับมือของ “สามมหาอำนาจด้านปราบปรามยาเสพติด” — ไทย จีน และสหรัฐอเมริกา — จึงถูกจับตามองในฐานะ “ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจกำหนดทิศทางใหม่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ระหว่างวันที่ 9–11 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือ 3 ฝ่าย ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายเว่ย เสี่ยวจุน เลขาธิการบริหารสำนักงานคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติจีน (NNCC) และ นายจอห์น พี. สก๊อต ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกไกล สำนักงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DEA) เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

เวทีนี้ถือเป็น “ครั้งแรก” ที่สามประเทศจัดประชุมร่วมกันในระดับนโยบาย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรอง การสืบสวน และแนวทางป้องกันปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกรณีศึกษา “เรือจีเช็ง” สัญชาติเซียราเลโอน ซึ่งบรรทุกไอซ์กว่า 5 ตันจากฝั่งอันดามัน ผ่านช่องแคบมะละกา เข้าสู่ทะเลจีนใต้ ก่อนถูกหน่วยยามฝั่งจีน (Chinese Coast Guard) สกัดจับ พร้อมลูกเรือ 7 คนเมื่อไม่นานมานี้
พล.ต.ท.อาชยน เปิดเผยว่า การประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่นำไปสู่การขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ายาในหลายประเทศ รวมถึงการวิเคราะห์เส้นทางลำเลียงทางทะเลที่มีแนวโน้มถูกใช้มากขึ้นหลังจากมาตรการสกัดกั้นทางบกเข้มข้นขึ้น ทั้งสามฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะจัดตั้ง “คณะทำงานร่วม” เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลและระบบสืบสวนในอนาคต
ภายหลังการประชุม คณะผู้แทนไทยยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือของกลางที่ถูกดัดแปลงลำเลียงยาเสพติด เพื่อศึกษารูปแบบการกระทำผิดและนำมาปรับใช้ในการพัฒนาแนวทางสืบสวนของไทยให้เท่าทันกลยุทธ์ใหม่ของขบวนการค้ายาระดับโลก
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า การประชุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ปราบยาเสพติดข้ามชาติ” ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร.
การยกระดับความร่วมมือครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการเสริมพลังของหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดไทยให้ก้าวทันมาตรฐานสากล แต่ยังเป็น “สัญญาณแห่งความร่วมมือใหม่” ที่สะท้อนเจตนารมณ์ของสามประเทศในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติที่ซับซ้อนและท้าทายมากขึ้นทุกวัน





Users Today : 245
Users Yesterday : 347
Total Users : 8988671
Total views : 41256254
Who's Online : 0