ขอนแก่น -“SMO”จับมือ”APM-FSS” โรดโชว์ ชูศักยภาพธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ นักลงทุนขานรับท่วมท้น

“กลุ่มสมอทอง” เดินหน้าพบนักลงทุนทั่วประเทศ ปักหมุดโรดโชว์ 11จังหวัด ประเดิมชลบุรี–ปิดท้ายกรุงเทพฯ ชูจุดแข็งธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบและพลังงานชีวภาพ สะท้อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเสนอขาย IPO 231.60 ล้านหุ้น

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO ร่วมกับ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS) ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO จัดกิจกรรม โรดโชว์นำเสนอข้อมูลแก่ผู้ลงทุนในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อแนะนำศักยภาพธุรกิจและแผนการระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 231.60 ล้านหุ้น
โดยมี ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ APM, นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM, นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ FSS, นายภควัฒน์ ตุลยนิติกุล ผู้อำนวยการอาวุโส FSS , นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMO และนายกุศล ศรีเปารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินกลุ่มสมอทองเข้าร่วมแถลงข้อมูลทิศทางการดำเนินธุรกิจและโอกาสการเติบโตในอนาคต ต่อกลุ่มนักลงทุน และให้สัมภาษณ์ตอบคำถามต่อสื่อมวลชน

ดร.สมภพ เปิดเผยว่า การโรดโชว์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินสายพบปะนักลงทุนใน 11 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ราชบุรี นครปฐม พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา (หาดใหญ่) สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพมหานคร โดยเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจาก SMO มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและแผนการเติบโตที่ชัดเจน
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร กล่าวเสริมว่า กลุ่มสมอทองเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง รวมถึงผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) เพื่อจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ

ด้านผลประกอบการของ SMO ในช่วงปี 2565–2567 มีรายได้รวม 6,870.42 ล้านบาท 5,894.14 ล้านบาท และ 6,261.09 ล้านบาทตามลำดับ พร้อมมีกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องจาก 129.52 ล้านบาท เป็น 259.62 ล้านบาทในปี 2567 และเฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 518.51 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.55% สะท้อนถึงศักยภาพและความแข็งแรงทางการเงินของบริษัท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ จาก FSS กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลครั้งนี้เป็นโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าใจถึงศักยภาพของ SMO ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของประเทศ มีกำลังการผลิตรวม 240 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าชีวภาพรวม 14.38 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ขณะเดียวกัน นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ซีอีโอของ SMO กล่าวว่า บริษัทมุ่งสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ขยายฐานการผลิตในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้แหล่งวัตถุดิบทั้งในสุราษฎร์ธานี สระบุรี และชุมพร พร้อมทั้งขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กร RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มไทยให้ยั่งยืนในระดับสากล
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้ขยายโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ ลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องในห่วงโซ่อุตสาหกรรม ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นายภควัฒน์ ตุลยนิติกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ SMO เปิดเผยว่า

“การโรดโชว์ในครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีในการสื่อสารศักยภาพของกลุ่มสมอทองให้กับนักลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ ได้เห็นถึงความพร้อมของบริษัททั้งในด้านธุรกิจ ผลประกอบการ และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน SMO มีจุดแข็งที่แตกต่าง ทั้งในด้านห่วงโซ่การผลิตครบวงจร ความสามารถในการบริหารต้นทุน และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจในความต่อเนื่องของการเติบโตในระยะยาว”
นายภควัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า FSS พร้อมให้การสนับสนุนการเสนอขายหุ้น IPO ของ SMO อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนและนักลงทุนทั่วไปมีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของบริษัทที่มีศักยภาพและมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มและพลังงานของประเทศ

ตบท้ายที่นายกุศล ศรีเปารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินกลุ่มสมอทอง เปิดเผยว่าบริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือ SMO ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทสามารถจำแนกได้ 2 กลุ่ม คือธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ น้ำมันปาล์มดิบ หรือ Crude Palm Oil หรือ “CPO” เมล็ดในปาล์มอบแห้ง หรือ Palm Kernel หรือ “PK” นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิต เช่น กะลาปาล์ม ทะลายสับ เส้นใย และอื่นๆ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพผ่านการนำผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มดิบมาหมักในบ่อด้วยจุลินทรีย์เพื่อให้ได้ก๊าซชีวภาพ หรือ “Biogas” และนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในกิจการ และจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยกลุ่มบริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy สร้างการเติบโตให้กับกลุ่มบริษัทได้อย่างมั่นคงควบคู่กับการดูแล และลดผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนอันเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และต่อยอดธุรกิจให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน.