“สารวัตรแจ๊ะ” นำทีมบุกทลายรัง “พ่อมดพอตเค” ปรุงสูตรยานรกขายกลุ่มเด็กเอ็น-บาร์โฮส กลางกรุง

“สารวัตรแจ๊ะ” นำทีมบุกทลายรัง “พ่อมดพอตเค” ปรุงสูตรยานรกขายกลุ่มเด็กเอ็น-บาร์โฮส กลางกรุง

ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกเด็กเอนท์-ขยี้หนุ่มบาร์โฮส” ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. นำโดย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ฃทลายกลุ่มหัวจ่ายแก็งค์ยานรกกลุ่มปาร์ตี้สาวเด็กเอนท์-หนุ่มบาร์โฮส” ที่จำหน่ายแพร่กระจายระบาดในกลุ่มหนุ่มสาวนักเที่ยวตามสถานบันเทิงราตรีย่านดังกลางกรุง ในช่วงระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดตามนโยบายของ ตร.

นำกำลังสืบนครบาล และศอ.ปส.บช.น. ปูพรมบุกค้นพื้นที่ย่านอ่อนนุช จับกุมแก๊งค้ายานรก “พ่อมดพอตเค” พร้อมของกลางคีตามีนจำนวนมาก อุปกรณ์ผสมสาร-เครื่องซีล-หัวเชื้อและวัตถุดิบผลิตยาในห้องพักสุดหรู

เริ่มเวลา 07.30 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ตำรวจสืบนครบาล นำทีม พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือสารวัตรแจ๊ะ เปิดปฏิบัติการเข้ม ภายหลังสืบขยายผลจากการทลายเครือข่าย “เด็กเอ็น-บาร์โฮส” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถจับผู้ต้องหาได้ 7 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก ก่อนสาวลึกพบต้นตอสำคัญเป็นกลุ่มที่ผลิตและจำหน่าย “พอตเค” สูตรพิสดารในกลุ่มนักเที่ยว

เจ้าหน้าที่ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักย่านอ่อนนุช พบชายหนุ่มเจ้าของห้อง ชื่อ นาย ภาคภูมิ หรือ อาร์ม พยายามทำลายหลักฐาน เทคีตามีนลงชักโครกหนีการจับกุม ก่อนถูกควบคุมตัวไว้ได้ จากการตรวจค้นพบวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) 20 ถุง พร้อมหัวเชื้อผสมอาหาร วัตถุดิบผลิตสารเสพติดสำหรับหัวพอต อุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ และเครื่องซีลจำนวนมาก

การสอบสวนขยายผลต่อเนื่อง นำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ภายในซอยอ่อนนุช 69 แต่พบว่าเป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย ก่อนพบว่าผู้ต้องหารายแรกคือหัวสมองใหญ่ หรือที่ในวงการเรียกว่า “พ่อมดพอตเค” คิดค้นสูตรและผสมสารด้วยตัวเอง ก่อนกระจายขายในกลุ่มวัยรุ่น นักเที่ยว และเด็กเอนเตอร์เทน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. / รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า “ผู้ต้องหารายนี้เป็นต้นตอสำคัญของการแพร่ระบาด ‘พอตเค’ ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเล่ห์เหลี่ยมและใช้วิธีพรางตัวแนบเนียน ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จจากการขยายผลต่อเนื่องของชุดสืบนครบาล และจะเดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายลักษณะเดียวกันให้สิ้นซาก ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.