เซี่ยงไฮ้ “ปารีสแห่งตะวันออก” : มหานครแห่งอนาคต พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน

“ เซี่ยงไฮ้เป็น1ใน4มหานครใหญ่ของจีน(เทียนจิน ฉงชิ่ง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง)ที่ผมมีโอกาสไปเยือนครบทุกมหานครในช่วงกว่า30ปีที่ผ่านมา ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดนับแต่จีนเริ่มนโยบาย4ทันสมัยโดยเติ้งเสี่ยวผิง วันนี้กลับมาเซี่ยงไฮ้อีกครึ่งจึงถือโอกาสเล่าเรื่องราวของมหานครแห่งนี้”
อลงกรณ์ พลบุตร ตุลาคม 2025

เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) คือมหานครที่เล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของจีน ผ่านภูมิทัศน์ที่สะท้อนความขัดแย้งและความผสมผสานระหว่างสองยุคสมัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ “ปารีสแห่งตะวันออก” ในอดีต และ “ศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก” ในปัจจุบัน
เป็นเมืองที่แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศจีนได้อย่างชัดเจนที่สุด
จากหมู่บ้านริมน้ำเล็ก ๆ สู่ “ปารีสแห่งตะวันออก” และกลายมาเป็น ศูนย์กลางการเงินระดับโลก ในปัจจุบัน ด้วยจำนวนประชากรที่หนาแน่นกว่า 24 ล้านคน เซี่ยงไฮ้จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งจีนและเวทีโลก

อดีต จากหมู่บ้านประมงสู่ “ปารีสแห่งตะวันออก”
ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 19 เซี่ยงไฮ้มีสถานะเป็นเพียงเมืองค้าขายขนาดเล็ก แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นหลัง สงครามฝิ่น (1842) เมื่อเซี่ยงไฮ้ถูกเปิดเป็น เมืองท่าสนธิสัญญา

อิทธิพลตะวันตก: มหาอำนาจตะวันตกได้เข้ามาจัดตั้ง เขตสัมปทาน (Concessions) ทำให้พื้นที่เหล่านี้อยู่ภายใต้กฎหมายและการบริหารของชาวต่างชาติ ก่อให้เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร
สัญลักษณ์ยุคเก่า: เดอะบันด์ (The Bund) คือภาพสะท้อนของยุคทองนี้ ด้วยอาคารสไตล์ Art Deco และ Neoclassical ที่เคยเป็นที่ตั้งของสถาบันการเงินและบริษัทการค้าระดับโลก
จุดสิ้นสุด: ความรุ่งเรืองต้องหยุดชะงักลงเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้ายึดครองแผ่นดินใหญ่ในปี 1949 บทบาทและอิทธิพลในระดับโลกของเซี่ยงไฮ้จึงถูกจำกัดลง

ปัจจุบัน : สร้างอนาคตใหม่
ตั้งแต่ทศวรรษ 1990s รัฐบาลจีนได้กำหนดให้เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาและเป็นหน้าเป็นตาของชาติ โดยเฉพาะการสร้าง เขตผู่ตงใหม่ (Pudong New Area) ขึ้นมาใหม่ทั้งหมดสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต: ผู่ตงเปรียบเสมือนภาพความทะเยอทะยานของจีน ด้วยกลุ่มตึกระฟ้าที่ล้ำยุค เช่น เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ซึ่งมีความสูงถึง 632 เมตร กลายเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัย
มหานครคู่ขนาน: ปัจจุบันเซี่ยงไฮ้จึงมีภูมิทัศน์ที่โดดเด่น คือ การเผชิญหน้ากันของ เดอะบันด์ (อดีต) และ ผู่ตง (อนาคต) ข้ามแม่น้ำหวงผู่ ซึ่งสะท้อนการผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับวิสัยทัศน์แห่งอนาคต

บทบาททางเศรษฐกิจ : ฟันเฟืองของโลก
เซี่ยงไฮ้มีบทบาทสำคัญในสามมิติหลัก ได้แก่ การเงิน การค้า และนวัตกรรม ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่โตจนมี GDP ต่อปีสูงกว่า 4 ล้านล้านหยวน
1. ศูนย์กลางการเงิน (Financial Hub)
ตลาดทุน: เป็นที่ตั้งของ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดรวมใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญที่สุดของจีน
สกุลเงินหยวน: รัฐบาลใช้เซี่ยงไฮ้เป็นฐานในการผลักดันสกุลเงินหยวนให้เป็นสากลมากขึ้น โดยมุ่งเป้าให้เป็นศูนย์กลางสกุลเงินหยวนโลก
2. ศูนย์กลางการขนส่งและการค้า (Logistics Hub)
ท่าเรืออันดับหนึ่ง: ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าโลก โดยมีปริมาณการขนถ่ายคอนเทนเนอร์ (TEUs) สูงกว่า 40 ล้าน TEUs ต่อปี ซึ่งถือว่าคับคั่งที่สุดในโลก
การเชื่อมต่อ: ทำหน้าที่เป็นประตูหลักเชื่อมต่อพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอันอุดมสมบูรณ์ในลุ่มแม่น้ำแยงซีกับตลาดโลก
3. ศูนย์กลางนวัตกรรม (Innovation Hub)
เทคโนโลยีขั้นสูง: เซี่ยงไฮ้เป็นฐานที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Robotics) โดยมีเป้าหมายสร้างมูลค่ารายได้ในอุตสาหกรรมนี้สูงถึง 5 หมื่นล้านหยวน ในเขตผู่ตง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อิงกับความรู้และนวัตกรรม
เซี่ยงไฮ้จึงเป็นมากกว่าเมืองหลวงทางเศรษฐกิจที่ผสมผสานอดีตเข้ากับความยิ่งใหญ่ของอนาคตเพื่อขับเคลื่อนจีนในฐานะผู้นำบนเวทีเศรษฐกิจโลก

Related posts