 
 ปัตตานี.- กระหึ่ม !! เทศบาลเมืองปัตตานี – อบจ.ปัตตานี – เทศบาลเมืองตากใบ – เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ต่างพาเหรด คว้ารางวัลดีเด่น “เมืองแห่งการเรียนรู้ประเทศไทย ครั้งที่ 1” Thailand Learning City Award Guidelines

โดยในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของคนชายแดนใต้ รวมทั้ง 4 หน่วยงานปกครองท้องถิ่น ทั้งนี้ มีบรรดานักการเมืองท้องถิ่นจากเทศบาล จากจังหวัดชายแดนภาคใต้‘ พาเหรดรับรางวัลระดับประเทศ เทศบาลเมืองปัตตานี คว้ารางวัลดีเด่น เมืองเศรษฐกิจ อบจ.ปัตตานี
คว้ารางวัลดีเด่น เมืองลดความเหลื่อมล้ำ เทศบาลเมืองตากใบและเทศบาลเมืองลุไหงโก-ลก คว้ารางวัล เมืองแห่งการเรียนรู้กลุ่มบุกเบิก เมืองอัตลักษณ์ พร้อมรับโล่และใบประกาศนียบัตรรางวัล “เมืองแห่งการเรียนรู้ประเทศไทย ครั้งที่ 1” Thailand Learning City Award Guidelines จากเครือข่ายแพลตฟอร์มเมืองแห่งการเรียนรู้ประเทศไทย

การประกวด Learning City Award ครั้งที่ 1 พร้อมการมอบรางวัล จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 – 31 ตุลาคม 2568 ณ ลานสานฝัน TK Park อุทยานการเรียนรู้ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
โดยมีรางวัล “เมืองดีเด่น” 1. ด้านเมืองเศรษฐกิจ Learning City for ECONOMY (สีแดง) เทศบาลเมืองปัตตานี 2. ด้านเมืองอัตลักษณ์ Learning City for CULTURAL IDENTITY (สีน้ำเงิน) เทศบาลเมืองตาก 3. ด้านเมืองเด็กและเยาวชน น Learning City for YOUTH (สีเขียว) เทศบาลนครตรัง 4. ด้านเมืองลดความเหลื่อมล้ำ Learning City for EQUITY (สีเหลือง) องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี “เมืองศักยภาพสูง” 1. ด้านเมืองเศรษฐกิจ (สีแดง) เทศบาลเมืองกาญจนบุรี 2. ด้านเมืองอัตลักษณ์ (สีน้ำเงิน) เทศบาลเมืองสตูล 3. ด้านเมืองเด็กและเยาวชน (สีเขียว) องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว 4. ด้านเมืองลดความเหลื่อมล้ำ (สีเหลือง) เทศบาลเมืองแสนสุข
เทศบาลเมืองปัตตานี

นายนิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี เข้ารับรางวัลพร้อมเงินรางวัล ซึ่งทางเทศบาลฯ ร่วมกับโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนจังหวัดปัตตานีสู่การเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้โดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดปัตตานีและภาคีเครือข่ายสตรี โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และโครงการวิจัยปัตตานีโมเดล เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ยกระดับชีวิตของกลุ่มเด็กยากจนหัวใจบอบบางเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืนโดยม.ฟาฏอนี ภายใต้ทุนวิจัยการยกระดับและขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ Learning City ของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.) ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนและพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ Learning City เทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อขับเคลื่อนปัตตานีให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของประเทศไทย ตามบริบทของพื้นที่ ที่นําไปสู่เมืองน่าอยู่และสอดคล้องกับแนวคิดเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก UNESCO โดยการสร้างกลไกและความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายต่างๆ ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคท้องถิ่น ภาคชุมชน ภาคเอกชน และภาคการศึกษา
“จากวันนั้นถึงวันนี้ที่ใช้คำว่า “เรามาเรียนรู้อะไรกันของปัตตานี เรียนแล้วได้อะไร ทำยังไงต่อ” กับ Learning City Pattani(LC Pattani) เมืองแห่งการเรียนรู้ เป็นครั้งแรกที่เราเดินด้วยกันกับมหาวิทยาลัย บุคลากรเทศบาล เครือข่าย พี่น้องประชาชน เริ่มเห็นผล เมืองแห่งการเรียนรู้ ที่ทำร่วมกับม.ฟาฏอนี ม.อ.ปัตตานี มสธ. เอกชน ประชาชน กลุ่มมลายูลิฟวิ่งทำ Pattani Decode และกำลังทำ TCDC เป็นการเชื่อมโยงของเมืองทั้งหมด

ปัตตานีเป็นเมืองพหุวัฒนธรรม การพัฒนาเมืองอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนต้องพัฒนาคน การศึกษา ฝึกอบรมเยาวชน คนเปราะบาง ภาคีเหล่านี้ช่วยกันตอบโจทย์พหุวัฒนธรรมที่แท้จริง มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ชัดเจนที่เห็นเด่นชัด ไทย จีน มุสลิม คริสต์ อยู่ร่วมกันได้จริง” นายนิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี กล่าวถึงการร่วมเดินทางของเทศบาลฯ สู่เมืองแห่งการเรียนรู้
“การหารายได้เป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างสรรค์และรังสรรค์ของทีมงาน แต่ละกลุ่มมีความสุขกับการทำงานที่มีรายได้ของเมือง เช่น กิจกรรมวิถีแห่งสายน้ำที่สร้างรายได้ให้พื้นที่จำนวนมาก ชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวกันแน่นเมือง แหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทั้ง โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี มัสยิดกลางปัตตานี มัสยิดรายอฟาฏอนี ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว บ้านขุนพิทักษ์รายา บาราโหมบาซาร์ สร้างรายได้ สร้างอาชีพได้จริง ในวันนี้ปัตตานีมีรายได้จากการร้อยเรียงวงแหวนพหุวัฒนธรรม การมาเที่ยวปัตตานีไม่ใช่มาเพียงในเมืองปัตตานี ยังเป็นการกระจายรายได้และสร้างการเรียนรู้อย่างแท้จริงไปยังเมืองใกล้เคียง”

“ความภาคภูมิใจคือ ฐานะของเมืองเป็นโอกาสของความเท่าเทียม ปัตตานีเป็นเหมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ ทุกคนที่เข้ามาจะถามว่า ปัตตานีมีกิจกรรมอะไรบ้าง งานเจ้าแม่ งานกอรี งานอาหรับสตรีท บางงานดูเล็กๆ แต่มีเงินหมุนเวียน 2-4 ล้านบาท บางงานถึง 200 ล้านบาท การรังสรรค์เมืองเป็นการขยายผลที่เห็นเป็นรูปธรรม ถ้าเราช่วยกันประคองกันไว้ ปัตตานีจะโตขึ้นตามลำดับ แต่ไม่หวือหวา ค่อยเป็นค่อยไป
สิ่งที่เห็นชัดคือปัตตานีมีการเปลี่ยนแปลง คนรุ่นใหม่เปิดร้านอาหาร คาเฟ่เยอะมาก ไม่มีที่จอดรถ เป็นเรื่องธรรมดาของเมืองที่กำลังโต อีกกลุ่มคือกลุ่มเปราะบางมีส่วนเสริมว่าช่วยด้านไหนได้บ้าง
ปัตตานีเป็นโมเดลในการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีกลุ่มมลายูลิฟวิ่งจัดงานปัตตานีดีโค้ด ต่อยอดจนมาถึงการได้จัดตั้งศูนย์ TCDC ที่กำลังพัฒนา เทศบาลเป็นเฟืองตัวหนึ่งที่คอยสอดรับและผลักดันให้เมือง ภาคเอกชน ภาคราชการอื่นๆ มาช่วยทำงาน อีกไม่นานจะเห็นภาพชัด จากกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่และรุ่นเก่าที่เข้ามาเช่น ดร.นิพนธ์ นิกาจิ มาช่วยสร้างสรรค์งานศิลปะควบคู่กับการสร้างสรรค์รายได้ของประชาชน หรือ ทีเค ปาร์คที่เป็นของทุกคนในปัตตานี”
นายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่าความหลากหลายของปัตตานีที่มีอยู่สามารถต่อยอดได้ เป็นทุนสร้างสรรค์สังคม เป็นพลังการร่วมมือ ทีมงานเทศบาลก็มีคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมบริหาร เป็นการต่อยอด สร้างคนเพื่อสร้างเมือง ต่อยอด LC เป็นการสร้างวัคซีนภูมิคุ้มกันเรื่องของเด็ก เยาวชน เป็นความต้องการของเทศบาล กลุ่มนักธุรกิจ อยากให้ปัตตานีมีฟรีไวไฟ สร้างกลุ่มเปราะบาง กลุ่มสตรี ส่งเสริมอาชีพ หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานย่านเมืองเก่า ออกแบบถนนที่เหมาะสมตรงศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
“เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามา เกิดการหมุนเวียนได้เยอะและเร็ว แต่ละงานมีคนมางาน 40,000-50,000 คน โรงแรม ที่พักเต็มหมด วันศุกร์หากไม่จองไม่มีที่พัก นักท่องเที่ยวมาตามรอยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์บรรพบุรุษ ไทย จีน อิสลาม แล้วไปเที่ยวต่อ หาดใหญ่ เบตง ยะลา นราธิวาส เป็นการเชื่อมต่อในวงแหวนการท่องเที่ยว จากวงแหวนวัฒนธรรมสู่การสร้างสรรค์เศรษฐกิจ ได้คนรุ่นใหม่ มหาวิทยาลัย พันธมิตรและเครือข่าย เป็นการสร้างสรรค์เมืองที่ภูมิใจว่า ปัตตานีเป็นเมือแห่งการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและประเพณีอย่างแท้จริง เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัยที่มีโครงการดีๆ จะเข้ามาต่อยอด ช่วยเหลือปัตตานี จะเกิดมิติใหม่ๆ อีกหลายด้าน “สิ่งสำคัญที่สุดคือ กระบวนการเรียนรู้ ดังคำสอนของศาสนาอิสลามคือ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมต่อยอดเมืองแห่งการเรียนรู้เพื่อชาวปัตตานีและพี่น้องประชาชนทุกคน”
ด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานีโดย นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมรับรางวัล “เมืองดีเด่น เมืองลดความเหลื่อมล้ำ” โดยรางวัลที่ได้รับ ได้แก่ โล่รางวัลพร้อมใบประกาศนียบัตรและเงินรางวัล หนังสือเรื่อง “การจัดการทุนวัฒนธรรมไทย ทฤษฎีและการปฏิบัติ” ชุดสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน การสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อยกระดับการเรียนรู้ของเมืองโดยความร่วมมือของ บพท. ร่วมกับ OKMD การรับรางวัลในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในด้านต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับหลักธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี คือ (ดีที่ 2) มีปัญญา การส่งเสริมการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์รอบตัว การสร้างสรรค์นวัตกรรม การประสานงานหน่วยงานเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ เช่น กับคณะกรรมการศึกษาจังหวัด (กศจ.) มูลนิธิศูนย์เรียนรู้อิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) 5 จังหวัดชายแดนใต้ สถาบันศึกษาปอเนาะ ตามแต่กรณี (ดีที่ 6) สังคมอบอุ่น กิจกรรมเพื่อให้คนในสังคมได้ช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกัน มีความรักสามัคคีไม่ทอดทิ้งกัน
จัดตั้งกองทุนพึ่งตนเอง โดยไม่รอแต่ความช่วยเหลือจากภายนอกด้วยการจัดกิจกรรมหารายได้เข้ากองทุนพึ่งตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาตนเองได้ และ (ดีที่ 9)กรรมการหมู่บ้านเข้มแข็ง การส่งเสริมให้มีศักยภาพในการวางแผนทั้งด้านการบริหารและพัฒนาหมู่บ้านอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะคณะกรรมการหมู่บ้านฝ่ายเด็กและเยาวชน (กม.น้อย)
ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน
 
										 
                             
                             
                            




 Users Today : 442
 Users Today : 442 Users Yesterday : 551
 Users Yesterday : 551 Total Users : 8971882
 Total Users : 8971882 Total views : 41227924
 Total views : 41227924 Who's Online : 3
 Who's Online : 3