ขอนแก่น-เปิดฉากยิ่งใหญ่ Thailand Product Expo 2025 เวทีเชื่อมสินค้าไทย สู่การค้าโลก

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ผนึกกองทุนฟื้นฟูฯ และเครือข่ายผู้ประกอบการ เปิดงาน Thailand Product Expo 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ที่ศูนย์ประชุมไคซ์ ขอนแก่น ดันสินค้าเกษตร–SME เจรจาจับคู่ธุรกิจ สร้างโอกาสการค้าในและต่างประเทศ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ ฮอลล์ 2–3 ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ จังหวัดขอนแก่น เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว งานแสดงสินค้าและเจรจาจับคู่ธุรกิจ Thailand Product Expo 2025 โดยมี นายรักติ ญวนกระโทก รองประธานคณะกรรมการบริหารส่วนภูมิภาค สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เป็นประธานในพิธี โอกาสนี้ นางวรรณี มหานีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวถึงวัตถุประสงค์การนำกลุ่มองค์กรเกษตรกรเข้าร่วมงาน พร้อมแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของการจัดงาน ขณะที่ นายอชิรวินท์ นวโชคอนันต์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาพันธ์ SME ไทย กล่าวรายงานถึงเป้าหมายการจัดงานซึ่งมุ่งสร้างโอกาสทางการตลาด ขยายเครือข่ายธุรกิจ และยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดสากล

ภายในพิธีเปิดยังมีการเสวนาพิเศษ โดย ดร.ศักดิ์ชัย เจริญศิริพรกุล คณบดีวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ และประธานคณะกรรมการหลักสูตร วธว.2026 และ รศ.นพ.ชลธิป พงศ์สกุล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารเวลเนสและเขตนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และกรรมการหลักสูตร วธว.2026 ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรม และโอกาสการพัฒนาธุรกิจในอนาคต
บรรยากาศงานเป็นไปอย่างคึกคัก มี นายสมสัก วิไลทอน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ กลุ่มองค์กรเกษตรกร ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

นายวัชรินทร์ พรสวัสดิ์ชัย กล่าวว่าในนามคณะผู้จัดงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ Thailand Product Expo 2025 วัตถุประสงค์การจัดงาน ​การจัดงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ Thailand Product Expo 2025 มีวัตถุประสงค์หลัก 5 ประการ คือส่งเสริมผู้ประกอบการไทย เป็นเวทีสนับสนุนผู้ประกอบการไทย วิสาหกิจชุมชน และ SME ให้มีโอกาสนำเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมสู่ผู้บริโภค สร้างโอกาสทางการตลาด เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล ​กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน เข้าถึงสินค้าคุณภาพ ให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงสินค้าไทยคุณภาพดีในราคายุติธรรม และร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกระดับสู่สากลสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยก้าวจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับสากล (Local to Global) ​

ส่วนรายละเอียดการจัดงาน วันที่จัดงาน 17 – 21 ธันวาคม 2568 สถานที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ (KICE) จังหวัดขอนแก่น ​ไฮไลท์ภายในงาน ​รวบรวมสินค้าหลากหลายประเภทจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ กิจกรรมการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ​กิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ร่วมงาน ​ทั้งนี้ คณะผู้จัดงานได้กล่าวขอบคุณประธานในพิธี แขกผู้มีเกียรติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้


ด้าน นายรักติ ญวนกระโทก รองประธานคณะกรรมการบริหารส่วนภูมิภาค สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ Thailand Product Expo 2025 มองภาพรวมของผู้ประกอบการ SME ในปัจจุบันต้องยอมรับว่า SME ของไทยได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการขนาดกลาง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ อยู่ในทุกชุมชน ทุกจังหวัด แต่ปัญหาหนึ่งที่พบคือ ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า “SME” อย่างชัดเจน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐเองก็สื่อสารเรื่องนี้ไม่เท่าเทียมกัน

ความไม่เข้าใจเรื่องความเป็น SME ส่งผลต่อผู้ประกอบการค่อนข้างมากครับ เพราะเมื่อผู้ประกอบการไม่รู้ว่าตนเองคือ SME ก็จะไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนได้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านการเงิน แหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เครื่องมือด้านการตลาด ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ เช่น การ Up-skill และ Re-skill การยกระดับมาตรฐาน การลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เครื่องมือเหล่านี้มีอยู่จริง แต่ถ้าไม่รู้ว่าเรามีสิทธิ์ใช้ ก็จะรู้สึกว่ามันไกลเกินเอื้อม

บทบาทของงาน Thailand Product Expo 2025 ต่อ SME งานนี้เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร ภาคธุรกิจ SME รายย่อย รายเล็ก รายกลาง ได้เข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกัน ทั้งการแสดงสินค้าและการจับคู่ธุรกิจ ที่สำคัญคือเป็น “หมุดหมายหนึ่ง” ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ว่า ตนเองคือ SME และสามารถใช้เครื่องมือของรัฐได้จริง จากจุดนี้ ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดไปสู่การออกงานแสดงสินค้าในระดับประเทศ เช่น เมืองทองธานี ไบเทค หรือแม้กระทั่งตลาดต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

ในงานนี้มีการสนับสนุนหรือเครื่องมือใดที่น่าสนใจเป็นพิเศษภายในงานจะมีบูธของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่นำเครื่องมือสนับสนุน SME มาให้คำแนะนำโดยตรง ตัวอย่างเช่น การออกบูธต่างประเทศซึ่งปกติค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ถ้าผู้ประกอบการใช้เครื่องมือของรัฐเป็น จะจ่ายเพียงประมาณ 20% เท่านั้น ทำให้กล้าออกสู่ตลาดมากขึ้น จากเดิมที่รู้สึกว่าต้นทุนสูงเกินไปหรือไม่กล้าแข่งขัน
อยากให้ผู้ประกอบการมองว่างาน Thailand Product Expo 2025 ไม่ใช่แค่มาขายสินค้า แต่เป็นโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ เรียนรู้ และเข้าถึงกลไกสนับสนุนที่มีอยู่ งานนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากผู้ประกอบการรู้จักใช้เครื่องมือของรัฐ ใช้เครือข่ายและพันธมิตรให้เป็น ก็จะสามารถต่อยอดธุรกิจได้ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับประเทศ และก้าวสู่ตลาดสากล หรือ Local to Global ได้อย่างแท้จริง

“ต้องขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน คณะกรรมการ และทีมงานทุกฝ่าย ที่ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้ SME และผู้ประกอบการทุกภาคส่วนได้มีโอกาส วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยได้ไปต่ออย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–21 ธันวาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ จังหวัดขอนแก่น นับเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทย และสนับสนุนการเติบโตของเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
ส่วน นางวรรณี มหานีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ถึง 2568 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละศูนย์ให้แก่กลุ่มองค์กรเกษตรกรทั่วประเทศ รวมกว่า 3,136 โครงการมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 89,000 ราย ใช้งบประมาณรวมกว่า 1,270 ล้านบาทครอบคลุมกลุ่มอาชีพด้านการเกษตรถึง 18 อาชีพกลุ่มองค์กรเกษตรกรเหล่านี้ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สู่การเป็นเกษตรคุณภาพทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวอินทรีย์ และข้าวกล้องรวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปมาตรฐานส่งออกอาทิ ผลิตภัณฑ์จากยางพารา เสื่อกก และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ โดยเฉพาะโคขุน ในการเข้าร่วมงาน Thailand Product Expo 2025 ครั้งนี้
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้นำกลุ่มองค์กรเกษตรกรจำนวน 20 องค์กรร่วมแสดงสินค้าและเจรจาจับคู่ธุรกิจพร้อมเชิญชวนประชาชนเลือกซื้อสินค้าเกษตรคุณภาพไม่ว่าจะเป็นข้าว หอมแดง กระเทียม เห็ด เมล่อน ผ้าไหมรวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีรายได้เพิ่ม
ขณะที่นางสาวชรินา แก้วสีขาว กรรมการผู้จัดการบริษัท การตลาดเพื่อผลผลิตชุมชน จำกัด
ระบุว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคอีสานมีศักยภาพสูงทั้งด้านการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาคและนานาชาติ.

Related posts