ญาติสุดเศร้าเตรียมรับศพ “หมู่ตี๋” สิบเอกอภิสิทธิ์ บุนนาค อายุ 33 ปี กองกำลังรบกองทัพภาคที่ 2 ตำแหน่งนายสิบพยาบาลประจำทหารเสนารักษ์ พัน.ร.11 ในพื้นที่สนามรบ สังกัดกรมทหารราบที่ 16 พัน.3 (ร.16 พัน.3) หลังพลีชีพกลางสมรภูมิภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ด้านภรรยาเผยภาคภูมิใจสามีสละชีวิตเพื่อชาติ ขณะที่ทุกภาคส่วนและชาวบ้านร่วมสดุดีทหารหมอผู้กล้ารายที่ 16

วันที่ 15 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดป่าพุทธภาวัน บ้านสมสะอาด หมู่ 7 ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมาให้กำลังใจ กำลังทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมสถานที่ รอรับศพของ ส.อ.อภิสิทธิ์ บุนนาค หรือ “หมู่ตี๋” กองกำลังรบกองทัพภาคที่ 2 ตำแหน่งนายสิบพยาบาลประจำ พัน.ร.11 ในพื้นที่สนามรบ สังกัดกรมทหารราบที่ 16 พัน.3 (ร.16 พัน.3) หลังพลีชีพกลางสมรภูมิภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากการโจมตีด้วยจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชาอย่างรุนแรง ขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในบังเกอร์พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 7 ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ทางญาติ เพื่อนบ้าน ร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ กางเต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อเตรียมรับแขกมาร่วมงาน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าศพจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ โดยเฉพาะนางรวีวรรณ บุนนาค อายุ 44 ภรรยา ลูกสาววัย 8 ขวบ และลูกชายวัย 6 ขวบ ที่ต้องสูญเสียสามี และพ่อไปอย่างกะทันหัน แต่ทุกคนก็ภาคภูมิใจที่ “หมู่ตี๋” ปฏิบัติหน้าที่ทหารหมอเสนารักษ์ช่วยคนจนวินาทีสุดท้าย และสละชีพเพื่อชาติ

ทั้งนี้นายภูมินทร์ ภูมิเขต สจ.อำเภอกุฉินารายณ์ ประธานสภา อบจ.กาฬสินธุ์ และคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางสาววิภาวี บุญเรือง นายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม และผู้นำชุมชน ยังได้ลงพื้นที่เข้าให้กำลังใจให้กับครอบครัวหมู่ตี๋ และขอแสดงความเสียใจ พร้อมขอสดุดีวีรบุรุษผู้กล้าที่พลีชีวิตเพื่อชาติอีกด้วย

นางรวีวรรณ บุนนาค อายุ 44 ภรรยาหมู่ตี๋ กล่าวว่า แม้ตนและครอบครัวจะเสียใจอย่างมากกลับการจากไปของสามี แต่ทุกคนก็มีความภาคภูมิใจที่หมู่ตี๋สละชีวิต เพื่อชาติบ้านเมือง ปฏิบัติหน้าที่ทหารหมอเสนารักษ์ช่วยคน ช่วยชีวิตเพื่อนทหารจนวินาทีสุดท้าย ทำตามความต้องการของตนเอง เพราะปกติหมู่ตี๋ ก็เป็นคนชอบช่วยเหลือเพื่อนๆอยู่แล้ว เป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นที่รักของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆทหาร ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์สู้รบตนและลูกก็ยังโทรศัพท์พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ ไม่มีลางบอกเหตุ และไม่คาดฝันว่าสามีจะเสียชีวิต เพราะการปฏิบัติหน้าที่ทหารพยาบาลเสนารักษ์รักษาช่วยเหลือคนบาดเจ็บ ถือเปล ไม่ได้ถือปืนยิงใคร แต่ก็ถูกฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21เข้ามาภายในบังเกอร์จนเสียชีวิต

ทั้งนี้นางรวีวรรณ ยังยืนยันว่า ในเรื่องการจัดงานศพนั้นทางครอบครัวตน และทางแม่ของสามีที่ จ.ร้อยเอ็ด ไม่ได้มีปัญหาในการจัดงานศพกัน หลังเสียชีวิต ทุกคนเสียใจอยู่แล้ว ทางแม่ก็พูดคุยกัน โดยมอบให้ทางตนเป็นคนจัดการงานศพ เพราะแม่สามีบอกว่าตนก็เปรียบเหมือนลูกแท้ๆ ส่วนตนก็คิดว่าแม่สามีก็แม่แท้ๆเหมือนกัน ไม่ได้มีปัญหาที่มีดราม่าในโซเชียล ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าใจ เพราะญาติทุกคนก็เสียใจ

ขณะที่นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้กำชับและสั่งการให้นายอำเภอกุฉินารายณ์ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้กำลังใจ และคอยดูแลอำนวยความสะดวกในการจัดเตรียมสถานที่รับศพให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เยียวยาสภาพจิตใจ และดูแลครอบครัวของ ส.อ.อภิสิทธิ์อย่างเต็มที่
สำหรับ ส.อ.อภิสิทธิ์ บุนนาค อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยูที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด แต่งงานกับ นางรวีวรรณ บุนนาค ราษฎรหมู่ 7 อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 173 ม.7 ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ด.ญ.ปัณธร บุนนาค อายุ 8 ปี และ ด.ช.ปัณวิชน์ บุนนาค อายุ 6 ปี




Users Today : 464
Users Yesterday : 495
Total Users : 8995849
Total views : 41267373
Who's Online : 3