นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” สั่งลุย! ปราบหนัก ตัดวงจรค้า-ยึดทรัพย์แบบเบ็ดเสร็จ เสริมเทคโนโลยีด่านตรวจทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรี แพทองธาร” สั่งลุย! ปราบหนัก ตัดวงจรค้า-ยึดทรัพย์แบบเบ็ดเสร็จ เสริมเทคโนโลยีด่านตรวจทั่วประเทศ

จากนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภา วันที่ 12 ก.ย.67 ว่าปัญหายาเสพติดเป็นโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิต และจำหน่าย ด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสกัดกัการลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด จึงกำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่ตอนใน โดยเร่งพัฒนาประสิทธิภาพด่านตรวจ/จุดตรวจ บนเส้นทางคมนาคมทางบกทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และเส้นทางล่อแหลม เพื่อเป็นการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั่วประเทศ โดยพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ให้ด่านตรวจ/จุดตรวจ  

ปัจจุบันกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปราม      ยาเสพติด  มีด่านเอกซเรย์ตรวจค้นยาเสพติด อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 4 แห่ง คือ          

1. ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์

2. ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา

3. ด่านตรวจยานพาหนะ ภ.4 อ.พล จว.ขอนแก่น

4. ด่านตรวจยานพาหนะ ภ.6 อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์

โดยได้มีการนำเทคโนโลยีเครื่องเอกซเรย์มาใช้ในการตรวจสอบยานพาหนะที่ต้องสงสัยว่าจะลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์ตู้โดยสาร รวมถึงรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้บรรทุกสินค้าทางการเกษตรและอุตสาหกรรม โดยเจาะหรือดัดแปลงตัวถังรถให้มีช่องลับบรรจุเป็นหีบห่อปะปนมากับสินค้าทางการเกษตรและอุตสาหกรรม  โดยด่านเอกซเรย์ตรวจค้นยาเสพติดมีการตรวจพบยาเสพติด เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง

สำหรับด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี มีผลการปฏิบัติในปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 15 มี.ค. 68  โดยได้ตรวจพบยาเสพติด ซึ่งเป็นคดีรายสำคัญ จำนวน 6 คดี  ผู้ต้องหา  14 คน  ของกลางยาเสพติด  ยาบ้า จำนวนประมาณ  28,690,000 เม็ด และ ไอซ์ จำนวนประมาณ 200 กิโลกรัม

คดีที่ 1 ยาบ้า 8,000,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 22.50 . บก.สกส., บก.ปส.3, บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 1 คดี ผู้ต้องหา 3 คน

สืบเนื่องจาก กก.2 บก.สกส.บช.ปส. ได้เฝ้าติดตามสืบสวนกลุ่มเป้าหมาย นายชัดเจน กับพวกพบว่ามีพฤติการณ์ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย นำมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ปริมณฑล จนกระทั่งวันที่  10 พ.ย. 2567 พบกลุ่มนายชัดเจน กับพวกมีความเคลื่อนไหว โดยใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน  ผน 50xx เชียงราย, ยค 96xxเชียงใหม่ และ 1ฒฉ 5xx กรุงเทพมหานคร ขับขี่ลักษณะนำ-ตาม จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม พบใช้เส้นทาง หลบเลี่ยงด่านตรวจ ผ่าน จว.เชียงราย, จว.พะเยา, จว.ลำปาง, จว.แพร่, จว.สุโขทัย, จว.พิจิตรมุ่งหน้าพื้นที่ จว.นครสวรรค์ พอใกล้ถึงด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ รถยนต์ทะเบียน 1ฒฉ 5xxกรุงเทพมหานคร เลี้ยวเข้าปัม ปตท.เขาเขียว อ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบนายสุพจน์ คนขับตรวจสอบภายในรถ พบยาบ้า 8,000,000 เม็ด จึงแจ้งชุดที่ติดตามรถยนต์อีก 2 คัน
เพื่อควบคุมตัวผู้ร่วมกระทำความผิด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

คดีที่ 2  ยาบ้า 12,000,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 17.30 . บก.สกส., บก.ขส.บช.ปส., ป.ป.ส.ภาค 1 และเจ้าหน้าที่ทหาร นปส.ขกท.ศปก.ทบ. ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด   1 คดี ผู้ต้องหา 2 คน

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สกส.บช.ปส. ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีกลุ่มชนเผ่าในพื้นที่ ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ประกอบด้วยนายยี (ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง), นายธนกร, นายธันยา, นายเกษม และนายทัตพงศ์ ใช้ รถยนต์กระบะเสริมข้าง ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน 4ฒข 51xx กรุงเทพมหานคร, รถยนต์กระบะเสริมข้าง ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน ผก 69xxพิษณุโลก และรถยนต์กระบะเสริมข้าง ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 83xx พิษณุโลก ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต่อมาวันที่ 25 ม.ค.68 พบความเคลื่อนไหวรถยนต์ทั้งสามคันออกจากพื้นที่ อ.พบพระ จว.ตาก โดยใช้เส้นทางจาก อ.แม่สอด มายัง จว.ตาก ผ่าน จว.กำแพงเพชร -นครสวรรค์ จึงจัดชุดวางกำลังตามรายทาง จนพบรถยนต์ทั้ง 3 คัน วิ่งจาก จว.กำแพงเพชร มุ่งหน้าไปทาง จว.นครสวรรค์ ลักษณะนำตามห่างกันประมาณ 5-10 กิโลเมตร จึงแบ่งกำลังกันสะกดรอยติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. ขณะรถยนต์หมายเลขทะเบียน บห 8340 พิษณุโลก วิ่งมาถึงบริเวณสี่แยกหางน้ำสาคร จว.ชัยนาท ติดสัญญาณไฟจราจร ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน ผก 6958 พิษณุโลก ได้แวะเข้าไปจอดที่บริเวณภายในสถานบริการน้ำมัน ปตท.มโนรมย์ กม.145 (หจก.เอเซียชัยนาทออยล์) ถนนสายเอเซีย ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท และรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน       4ฒข 51xx กรุงเทพมหานคร ได้เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณภายในสถานบริการน้ำมันบางจาก  (กม.149

(กม.149 นครสวรรค์ – ชัยนาท ขาเข้า) ถนนสายเอเชีย ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท จึงเข้า

แสดงตัวเพื่อควบคุมและทำการตรวจค้นรถยนต์ทั้ง 3 คัน จากการตรวจค้นรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4ฒข 51xx กรุงเทพมหานคร พบนายธันยา เป็นคนขับ และพบยาเสพติดของกลางอำพรางโดยใช้กะหล่ำปลีปิดบังเต็มกระบะ ตรวจค้นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ผก 69xx พิษณุโลก มีนายเกษม เป็นคนขับ ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บห 83xx พิษณุโลก สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

คดีที่ 3  ไอซ์ 200 กิโลกรัม

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. บก.สกส., บก.ขส.บช.ปส. และ     บก.ทล.บช.ก. ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 1 คดี ผู้ต้องหา 2 คน

สืบเนื่องจาก กก.2 บก.สกส.บช.ปส. เฝ้าติดตามกลุ่มนายอภินัน พบว่ามีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ม.ค.68 พบรถยนต์ต้องสงสัยหมายเลขทะเบียน 7กว 61xxกรุงเทพมหานคร และ 1ฒช 9xx กรุงเทพมหานคร ขับขี่ลักษณะนำ-ตาม ใช้เส้นทาง จากภาคเหนือตอนบนลงสู่ภาคกลาง ต้นทางมาจาก อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ใช้เส้นทางผ่าน อ.พาน จว.เชียงราย,
อ.สอง อ.เด่นชัย จว.แพร่, อ.ตรอน จว.อุตรดิตถ์, อ.วัดโบสถ์อ.วังทอง จว.พิษณุโล, อ.ทับคล้อ
จว.พิจิตร, อ.ตากฟ้า จว.นครสวรรค์ มุ่งหน้าพื้นที่ จว.สมุทรปราการ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนและติดตามรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติด และได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30น. รถยนต์หมายเลขทะเบียน
1ฒช 9xx กรุงเทพมหานคร ได้เข้าไปจอดภายในปัม ปตท. อินทร์บุรี กม.104 จึงได้แสดงตัว
เข้าควบคุมและทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนายรัฐพันธ์ เป็นคนขับ เบื้องต้นไม่พบของกลางยาเสพติด จึงได้เชิญนายรัฐพันธ์ นำรถยนต์คันดังกล่าวและไปเอกซเรย์ ที่ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ พบของกลางซุกซ่อนภายในช่องลับ        ใต้หลังคาจึงแจ้งข้อกล่าวหานายรัฐพันธ์ และติดตามจับกุมนายอภินัน ซึ่งทำหน้าที่ขับรถนำทาง           ที่ปัมน้ำมันเชลล์ กม.32 เลขที่ 51 หมู่ที่ 4 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จว.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

คดีที่ 4  ยาบ้า 7,990,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 01.00 05.40 น. โดยเกี่ยวเนื่องกัน        บก.สกส.บช.ปส., บก.ปส.3, บก.ขส.บช.ปส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ชป.ข่าวพิเศษ ฉก.ทัพเจ้าตาก ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 1 คดี ผู้ต้องหา 4 คน

ก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มบุคคล                ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และจะนำมาส่งให้ลูกค้าตาม           สั่งการของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยจะใช้รถยนต์ทะเบียน  กธ 37xx พะเยา, รถยนต์ทะเบียน บม 16xx พะเยา และ รถยนต์ทะเบียน บพ 44xx พะเยา โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวใช้เส้นทาง

จากพื้นที่ชายแดน จว.เชียงราย ผ่าน จว.พะเยา – จว.แพร่ –จว.สุโขทัย จว.พิษณุโลก จว.พิจิตร จว.นครสวรรค์ ปลายทางพื้นที่ กทม. และปริมณฑล จึงได้เฝ้าติดตามกลุ่มรถยนต์ดังกล่าวเรื่อยมา     จนกระทังวันที่ 27 ก.พ.68 เวลาประมาณ 22.22 น. พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์กลุ่มดังกล่าว ในพื้นที่ แยกคลองเมน ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก ลักษณะเป็นขบวนมีรถนำ/ตาม ทิ้งระยะประมาณ 2-3 กม. มุ่งหน้า จว.พิจิตร-จว.นครสวรรค์ จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ให้หยุดรถยนต์ทั้งสามคัน รถยนต์สำรวจเส้นทางคันที่ 1 ทะเบียน บพ 44xxพะเยา เลยด่านตรวจไป และสามารถหยุดรถสำรวจเส้นทางรถยนต์คันที่ 2 ทะเบียน บม 16xx พะเยาไว้ได้ ส่วนรถยนต์คันที่ 3 ทะเบียน  กธ 37xx พะเยา จอดริมถนนก่อนถึงด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี เจ้าพนักงานตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อจะเข้าตรวจค้น แต่รถยนต์ คันดังกล่าวได้ขับขี่รถยนต์หลบหนี ทิศทางมุ่งหน้า อ.เมือง จว.นครสวรรค์ โดยสามารถหยุดรถคันดังกล่าวบริเวณริมถนนพหลโยธิน อ.เมือง จว.นครสวรรค์ ผลตรวจค้นพบยาเสพติดจำนวนมาก     ในห้องผู้โดยสาร ส่วนผู้ขับขี่เป็นชายวัยรุ่น ได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีขณะเข้าจับกุม ต่อมาเวลาประมาณ 05.40 น. ชุดที่ติดตามรถยนต์คันที่ 1 ทะเบียน บพ 44xx พะเยา สามารถจับกุมได้ที่โรงแรมฟ้าใส รีสอร์ต.ตาคลี อ.ตาคลี จว.นครสวรรค์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

คดีที่ 5  ยาบ้า 100,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เจ้าพนักงานตำรวจ กก.3                บก.สกส.บช.ปส. จับกุมตัวผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน

ก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ กก.3 บก.สกส.บช.ปส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคเหนือ ด้าน จว.เชียงใหม่ และจะนำมาส่งให้ลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ภาคกลาง โดยจะใช้รถยนต์บรรทุก ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน บล 50xxเชียงราย ในการซุกซ่อนและลำเลียงยาเสพติด โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวจะใช้เส้นทางจาก จว.เชียงใหม่ – จว.เชียงราย – จว.ลำปาง – จว.ตาก – จว.กำแพงเพชร – จว.นครสวรรค์ – จว.ชัยนาท ต่อมา เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2568 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการได้ตั้งจุดตรวจ บริเวณหน้าด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี เพื่อชะลอการเคลื่อนตัว และคัดกรองรถยนต์เป้าหมาย จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. พบรถยนต์บรรทุก ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน บล 50xx เชียงราย ขับมา ถึงจุดตรวจ บริเวณหน้าด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี
เจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการจึงได้เรียกให้รถหยุดเพื่อขอทำการตรวจค้นตามกฎหมาย โดยมี
นายสมศักดิ์ จะลา เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นได้นำรถยนต์บรรทุก ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน
บล 50xx เชียงราย เข้าทำการ X-ray โดยละเอียด ผลการตรวจค้น พบวัตถุต้องสงสัย ซุกซ่อนภายในยางอะไหล่ ซึ่งเก็บอยู่ภายในช่องเก็บยางอะไหล่ จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 50 มัด ประมาณ 100,000 เม็ด ซุกซ่อนภายในยางอะไหล่

Related posts