บุรีรัมย์ ไม่รังเกียจ ตร.ล่าโจรทำร้ายชิงทรัพย์คนเขมรมาดำเนินคดี

อำเภอปะคำ/ตำรวจ สภ.ปะคำ ตามล่าคนร้ายหลอกไปส่งแล้วทำร้ายชิงทรัพย์ชาวกัมพูชา ได้เงินไปกว่า 4 พันบาท เผยประวัติเคยต้องคดีลักทรัพย์มาแล้ว ผกก.ระบุไม่เคยรังเกียจว่าผู้เสียหายจะเป็นใคร ถ้ามาอยู่ในผืนแผ่นไทยแล้วได้รับความเดือดร้อนเราต้องช่วยเหลือทุกคน

วันที่ 11 ก.ค.68 เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.ท.กฤษดา คติยะจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากนางสาเรียบ ชวน (ชาวเขมร)อายุ 47 ปีสัญชาติกัมพูชา แจ้งว่าถูกคนร้ายเป็นชายหลอกว่าจะไปส่งที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา แต่กลับจอดรถแล้วชิงเอากระเป๋าเงินซึ่งมีเงินสดอยู่กว่า 4,000 บาทหลบหนีไป

ต่อมา พ.ต.อ.อนันต์ ทองบรรเทิง ผกก.สภ.ปะคำ อ.ปะคำ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท. สุรพล มีศิลป์ รองผกก.(สืบสวน) และ พ.ต.ท. มาวิน หรบรรพ์ สารวัตร (สืบสวน) ไล่กล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบต่อมาว่าคนก่อเหตุนายแดง มุ่งชมกลาง อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ จึงตามไปตรวจค้นที่บ้านพัก

ได้ของกลางเป็นธนบัตรกัมพูชาฉบับละ500 เรียลจำนวน 7 ใบ ,ธนบัตรกัมพูชาฉบับละ 100 จำนวน 5 ใบ ,ธนบัตรกัมพูชา ฉบับละ 1,000 จำนวน 17 ใบ, บัตรประจำบัตรประชาชนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย จำนวน 1 ใบ, บัตรประชาชนประเทศกัมพูชา,โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ,กระเป๋าสะพาย 1 ใบ รวมทรัพย์สินเป็นเงินกัมพูชาประมาณ 21,900 เรียล ส่วนเงินสดจำนวน 4,000 บาทคนร้ายได้ใช้ไปหมดแล้ว

ตำรวจสอบสวนนายแดง ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจมาแวะที่สถานีขนส่งผู้โดนสารนางรอง เห็นหญิงคนกัมพูชา จึงจะอาสาไปส่งที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเขาต้องการจะกลับบ้าน ยอมรับเมื่อขับไประหว่างทางเกิดอยากได้เงินจึงจอดรถแล้วพยายามแย่งเอาแต่ขัดขืนจึงตบใบหน้าไป 2 ครั้งได้กระเป๋ามาจึงขับรถหลบหนี ก่อนจะถูกตำรวจมาตามจับกุมดังกล่าว

หลังได้เงินมาได้เอาไปตัดผมจับทรงเพื่อจะไปเที่ยวเตร่ ที่เหลือเอาไปส่งค่างวดรถจักรยานยนต์งวดละ 1,800 บาท แงะค้างไว้ 2 เดือนแล้ว จากนั้นเอาไปเที่ยวเตร่จนเงินหมด

ขณะนางสาเรียบ ชวน ชาวกัมพูชา ผู้เสียหายเล่าว่า ตนทำงานอยู่จังหวัดราชบุรีกับนายจ้าง ต้องการกลับบ้านไปเยี่ยมลูกที่ป่วยอยู่ฝั่งกัมพูชา จึงติดรถนายจ้างมาลงที่ อ. นางรอง เพื่อจะหารถไปที่ด่านชายแดนที่โรงเกลือ จ.สระแก้ว

ระหว่างที่รอรถอยู่นั้นได้มีชายคนดังกล่าว มาอาสาจะไปส่งบอกว่าให้เติมแค่น้ำมัน ตนก็เติมน้ำมันให้ 80 บาทแล้วซ้อนทายรถไป เมื่อไปถึงระหว่างทางนายแดง ได้เลี้ยวรถเข้าป่าแล้วกระชากกระเป๋า ตนไม่ยอมจึงโดนทำร้าย หลังจากนั้นนายแดง ได้ขี่รถหลบหนีไป ตนก็ออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านริมถนนมาแจ้งความดังกล่าว

นางสาเรียบ ยังบอกด้วยว่าตนกลับไปที่กัมพูชา ก็จะย้อนกลับมาทำงานอีก เพราะรักเมืองไทย มีเพื่อนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังทำงานอยู่เมืองไทย ขอบคุณตำรวจไทยที่ช่วยเหลือตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

 

สอบถาม พ.ต.อ.อนันต์ ทองบรรเทิง ผกก.สภ.ปะคำ ทราบว่าหลังได้รับแจ้งจึงรีบดำเนินการทันทีเพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนีไปได้ไกล ตามนโยบายของ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เคยสั่งการไว้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนชาติใดที่มาอาศัยอยู่เมืองไทยถ้าได้รับความเดือดร้อน จะต้องคุ้มครองให้เขาปลอดภัยเท่ากับคนไทย ถึงแม้เขาจะเป็นชาวกัมพูชา ที่ยังมีข้อขัดแย้งกับประเทศไทยก็ตาม เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหา นายแดง ในข้อหา ชิงทรัพย์ (ชาวต่างชาติ) โดยใช้ยานพาหนะ และทำร้ายร่างกาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
///////////////

Related posts