ผบ.ตร. ร่วมพิธีเปิดอาคารที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยองแห่งใหม่ ยกระดับมาตรฐานบริการคนต่างด้าว รองรับการเติบโตเขต EEC

วันที่ 14 พ.ย.68 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นประธาน ในพิธีเปิดอาคารที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยองแห่งใหม่ ณ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.3 และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมพิธีเนื่องด้วยตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง มีภารกิจในการควบคุมและให้บริการคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ทำให้มีคนต่างด้าวมาติดต่อรับบริการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ที่ทำการเดิมเกิดความแออัด ไม่สามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้อย่างเพียงพอ ในปี 2564 จึงได้มีการค้นหาพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ จนกระทั่งได้รับอนุญาตจากกรมธนารักษ์ให้ใช้ที่ดินผืนนี้ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ มีเนื้อที่ 49.27 ไร่ เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยองแห่งใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 28 ถ.ไอหนึ่ง ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โดยได้รับอนุมัติงบประมาณจากเงินค่าธรรมเนียมตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเสริมเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
ปัจจุบัน ภายใต้การบริหารงานของ พ.ต.อ.คมวุฒิ จองบุญวัฒนา ผกก.ตม.จว.ระยอง ได้มีการดำเนินการจัดทำ master plan วางแผนการใช้ที่ดินอย่างเป็นระบบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ติดตั้งระบบสารสนเทศ ปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ทำการโดยรอบ จัดทำโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับข้าราชการตำรวจ จำนวน 4 ชั้น จัดสร้างวิหารหลวงพ่อเข้าเมือง จัดทำโครงการร้านค้าสวัสดิการโดยใช้รูปแบบสวัสดิการเชิงธุรกิจ พร้อมนำรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ นำเข้ากองทุนสวัสดิการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง และจัดสรรเข้ากองทุนสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามระเบียบ จัดทำร่างโครงการโซลารูฟ โดยขอใช้เงินจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เขตนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด จ.ระยอง ทำการติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงแดด สำหรับใช้ในอาคารที่ทำการ นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และได้เปิดให้บริการที่ทำการแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.68 รวมทั้งจัดทำพิธีบวงสรวงศาลพระภูมิเจ้าที่ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.68 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การสร้างที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยองแห่งใหม่ นับเป็นหมุดหมายสำคัญของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง ที่ได้พัฒนาและยกระดับสถานที่ให้มีความทันสมัย สะดวก และเหมาะสมกับภารกิจในการให้บริการประชาชน รวมถึงการรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดระยองและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC อีกด้วย