01/11/2024

48 สาขา และตัวแทนอีสาน ออกแถลงการณ์หนุนอภิสิทธิ์ฯ เป็นหัวหน้า ปชป. ร่วมสร้างเอกภาพจากบุคลากรทุกรุ่น หวังเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน

48 สาขา และตัวแทนอีสาน ออกแถลงการณ์หนุนอภิสิทธิ์ฯ เป็นหัวหน้า ปชป. ร่วมสร้างเอกภาพจากบุคลากรทุกรุ่น หวังเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน

 

วันนี้ (4 ก.ค.66) ที่จังหวัดขอนแก่น ภายหลังการประชุมหารือร่วมกันของสาขาและตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) ทั้ง 48 แห่งได้แสดงจุดยืนเพื่อสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นหัวหน้าฯ

ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้า และคณะกรรมการบริหาร พรรคชุดใหม่ ในวันที่ 9 ก.ค. 2566 แทนชุดเดิม ซึ่งได้หมดวาระลงนั้น

พวกเราในฐานะสาขาและตัวแทนพรรคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)ได้ร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดและประมวลความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากสมาชิกในระดับต่างๆซึ่งมี ข้อสรุปที่สอดคล้องกันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีบทบาทอย่างสําคัญ ต่อการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ประชาชนจะสามารถยึดเหนี่ยวได้ ดังนั้นการเลือกกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะตําแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ต้องทําหน้าที่นำพาองค์กรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งประเทศ จึงมีความสําคัญ และจําเป็นที่จะต้องได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ และ มีหลักคิดที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ และประชาชนได้

พวกเราจึงมีมติร่วมกันเพื่อนําเสนอต่อพรรคและเพื่อนสมาชิกทั่วประเทศดังนี้
1. พวกเราขอสนับสนุน นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรีให้ทําหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อนําพาองค์กรที่ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันทางการเมืองแหง่นี้ ให้เกิดศรัทธา และความเชื่อมั่นที่ประชาชนสามารถยึดเหนี่ยวเพื่อรักษาระบอบการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อไป
2. พวกเราเห็นว่าบุคลากรทุกองค์ประกอบของพรรค ต่างมีคุณค่าตามสถานภาพและความรับผิดชอบจึงอยากเห็นความสามัคคีและความเป็นเอกภาพเพื่อร่วมกันพัฒนาองค์กร แห่งนี้ให้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชนได้
3. พวกเราขอสนับสนุนท้ังอุดมการณ์ และประสบการณ์ของบุคลากรรุ่นเก่า และผสม ผสานกับบุคลากรรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาสืบทอดเจตนารมณ์ และอุดมการณ์ เพื่อความยั่งยืนของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือเป็นสถาบันทางการเมืองของประเทศต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อแสดงจุดยืนของ สาขาพรรค ตัวแทนพรรค และพี่น้องประชาชน ท้ังที่เป็น และไม่ไ่ด้เป็นสมาชิกพรรคจากพื้นที่ภาคตตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)และขอเชิญชวนพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกท่านทั่วประเทศร่วมสืบทอดเจตนารมณ์ร่วมกัน

ด้วยจิตคารวะ
สาขา และ ตัวแทนจังหวัดภาคอีสาน ทั้ง 48 แห่ง ที่ประสานงานเบื้องต้น(ตามรายชื่อที่ปรากฏในแถลงการณ์)

นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
////

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป

พิษณุโลก อบจ.พิษณุโลก ร่วมมอบขาเทียมพระราชทานโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 171 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ที่ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มอบหมายให้ นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมมอบขาเทียมพระราชทานโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 171 ณ ลานโดมอเนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทร์ธราบรมราชชนนี นายแพทย์วิรัช พันธ์พานิช รองเลขาธิการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นายเกรียงฤทธิ์ สุขเจริญสิน กรรมการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและบุคลากรสาธารณสุขร่วมโครงการ ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวจัดโดยมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีร่วมกับจังหวัดพิษณุโลก ได้จัดทำโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ เพื่อทำขาเทียมให้คนพิการขาขาดในจังหวัดพิษณุโลกและพื้นที่ใกล้เคียงทุกเชื้อชาติทุกศาสนา ไม่คิดมูลค่า เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระมหากรุณาที่คุณและพระเมตตาคุณต่อคนพิการขาขาดที่ยากไร้ เพื่อให้บุคคลที่สูญเสียขาทุกคนได้พ้นความทุกข์จากการเป็นบุคคลทุพพลภาพที่ไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและสามารถช่วยเหลือครอบครัวสังคมตลอดจนคนรอบข้างได้ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาการสาธารณสุขในพื้นที่ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่งในการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานในครั้งนี้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 6 วัน คือตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ณ ลานโดมอเนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้เริ่มสำรวจและคัดกรองคนพิการขาขาดเพื่อเข้ารับบริการทำขาเทียมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 และมูลนิธิได้เริ่มดำเนินการตรวจและทำขาเทียมตั้งแต่วันที่ 27-31 ตุลาคม 2567 มีคนพิการขาขาดเข้ารับบริการทำขาเทียม จำนวนทั้งสิ้น 109 คน สามารถทำขาเทียมให้คนพิการขาขาดได้ 98 คน จำนวน 101 ขา และมีผู้พิการขาขาดที่สภาพต่อขาไม่พร้อมต่อการทำขาเทียมจำนวน 11 คน ขาเทียมจำนวน 101 ขา แบ่งเป็นประเภท ขาเทียมระดับข้อเท้า 1 ขา ขาเทียมระดับใต้เข่าประเภทสวยงาม 59 ขา ประเภทขาเกษตร 1 ขา ขาเทียมระดับข้อเข่า 5 ขา ขาเทียมระดับเหนือเข่า 33 ขา โดยสาเหตุของการถูกตัดขาเกิดจากอุบัติเหตุจราจรร้อยละ 44.9 โรคเบาหวานและหลอดเลือดร้อยละ 40.6 อุบัติเหตุอื่นๆร้อยละ 7.3 เหยียบกับระเบิดร้อยละ 2.7 และพิการแต่กำเนิดร้อยละ 4.5 . ธันย์ชนก ทองเพิ่ม ผู้สื่อข่าวพิษณุโลก