กาฬสินธุ์-เปิดใจนายกเทศมนตรีตำบลโพนทองพร้อมกลับมารับใช้ชาวบ้าน

นับถอยหลัง ครบวาระดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น “นายกเทศมนตรี” และสมาชิกสภา ทั้งผู้ที่ยังดำรงตำแหน่งและว่าที่ผู้สมัครฯ ตบเท้าออกมาเปิดตัวป้องกันตำแหน่ง และชิงชัยหวังเอาชนะใจชาวบ้าน ด้านนายคนสุดใจ บัวลอย นายกเทศมนตรีตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ประกาศลั่น “พร้อมสานงานต่อ ก่องานใหม่ เพื่อความสุขของทุกกลุ่มวัยในชุมชน”

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายจังหวัด กำลังเข้าสู่โหมดนับถอยหลัง สิ้นสุดวาระครบวาระ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งตามโรดแม็ปของ กกต.กำหนดปฏิทินเลือกตั้ง 11 พฤษภาคม 68 เท่ากับว่าบรรดาผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาในชุดปัจจุบัน มีเวลาอยู่ในตำแหน่งประมาณ 40 วันเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเวลาสั้นๆ และสำคัญยิ่งก็ว่าได้ ในส่วนที่รักษาผลงาน ความดี ให้คงไว้ เพื่อการ “ไปต่อ” อีกสมัย หากยังมีไฟที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไปอีกสมัย

ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายสุดใจ บัวลอย นายกเทศมนตรีตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้ออกมาให้ทรรศนะและเผยมุมมองของผู้บริหารท้องถิ่นอีกคนหนึ่ง ที่กำลังจะอยู่ครบวาระในไม่อีกกี่วันข้างหน้า โดยกล่าวว่าหลังได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) โพนทอง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ผมและคณะผู้บริหาร ให้เกียรติข้าราชการประจำ และความสำคัญทุกวัน กับการทำงานเพื่อพัฒนาพื้นที่ ต.โพนทอง 10 หมู่บ้าน ควบคู่กับการบูรณาการกับส่วนราชการ ฝ่ายปกครองท้องที่ เพื่อแก้ปัญหา นำความอยู่ดีกินดี มาสู่พี่น้องประชาชนทุกคน ทุกครัวเรือน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษามาตรฐาน ทั้งในส่วนของงานบริการ และบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทุกด้านให้สมบูรณ์แบบ ครอบคลุม ทั่วถึง” นายสุดใจกล่าว

นายสุดใจกล่าวเพิ่มเติมว่า อดีตตนเคยรับราชการเป็นเกษตรอำเภอ สั่งสมประสบการณ์หลายปี หลายอำเภอ พบเจอปัญหา ทราบความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มวัย ทุกสาขาอาชีพและทุกบริบทพื้นที่ แต่การแก้ไขปัญหา การพัฒนาหลายอย่างยังติดขัด ยังไม่ราบรื่น การกระจายอำนาจที่แท้จริง ยังไม่เต็มที่ ยังมีจุดที่ติดขัด เป็นอุปสรรคระหว่างทาง โดยเฉพาะงบประมาณในการดำเนินการบริหารท้องถิ่น ส่วนใหญ่จึงไม่เป็นไปตามนโยบาย และไม่สนองความต้องการของชุมชนเท่าที่ควร ที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จึงประสบปัญหาไม่ต่างกัน การบริหารจึงเป็นมาแบบประคับประคอง งบประมาณส่วนใหญ่ยังเทไปที่ส่วนกลาง มากกว่าจะกระจายลงสู่ท้องถิ่น

ทั้งนี้ งบประมาณที่ ได้รับการจัดสรรจากกรมส่งเสริมการปกครอบท้องถิ่นแต่ละปี ไม่ค่อยจะเพียงพอต่อการนำมาจัดสรร ต่อปริมาณงานที่ต้องการพัฒนาปรับปรุง ทั้งโครงสร้างชุมชน ความจำเป็นพื้นฐาน งานสาธารณูปโภคสาธารณูปการต่างๆ จึงต้องมีการบริหารงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อให้เกิดความคุ่มค่าที่สุด พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม ขณะที่บางปัญหา เช่น น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่อการอุปโภค งานป้องกันและบรรเทาสาธารภัย หรือพัฒนาคุณภาพชีวิต ก็ต้องประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน ก็สามารถลดความเดือดร้อน และบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องชาวตำบลโพนทองได้เป็นอย่างดี

“การบริการจัดการที่ผ่านมา ที่ช่วยทางราชการประหยัดงบประมาณ และสร้างความสุข ความภูมิใจมาสู่พี่น้องประชาชน เช่น ขอความร่วมมือจากโครงการชลประทาน ชักน้ำจากคลองชลประทานเข้ามากักเก็บที่อ่างเก็บน้ำหนองบัว แหล่งน้ำสาธารณะประจำชุมชน เพื่อเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาหมู่บ้าน และเพื่อการเกษตร ปลูกผักสวนครัว, จัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตยามเจ็บป่วย, มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนเรียนดี ความประพฤติดี ฐานะยากจน, ส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณี ตามฮีต 12 คอง 14, รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก, สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด, พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รถดับเพลิง ให้มีความพร้อมระงับเหตุตลอด 24 ชม., ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ซ่อมแซม ปรับปรุง บ้านพักอาศัยให้กับครัวเรือนเปราะบาง, ร่วมกับ อบจ.กาฬสินธุ์ รพ.กาฬสินธุ์ สาธารณสุขจังหวัด รพ.สต.ประจำตำบล ให้ความรู้ ตรวจ คัดกรอง ป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งถุงน้ำดี เป็นต้น” นายสุดใจกล่าว

“ผมและคณะผู้บริหารติดดิน อยู่ติดพื้นที่ น้อมรับฟังความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกเรื่อง ส่วนที่มีกรอบทำได้ ทำทันที ส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนอื่น เร่งรัดจัดการให้ให้มีการแก้ไขทันท่วงที ทุกวันนี้ยังสนุกกับการทำงาน และมีความสุขทุกครั้งที่ได้รับใช้พี่น้องประชาชน ตลอดทั้งให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการบริการทุกด้านตามศักยภาพ ที่ผ่านมาจึงมีการประสานบ้าน วัด โรงเรียน ตลอด จึงมีความรัก ความผูกพันในหน้าที่ตรงนี้ และพร้อมที่จะกลับมารับใช้ชาวตำบลโพนทอง เพื่อสานงานต่อ ก่องานใหม่ เพื่อความสุขของทุกกลุ่มวัยในชุมชนตลอดไป” นายสุดใจกล่าวในที่สุด